วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Spelling Rules (กฎการสะกดคำ)

Spelling Rules


วันนี้นำกฎการสะกดคำมาฝากค่ะ ซึ่งสำหรับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษไม่บ่อย อาจจะเจอว่าสะกดผิดบ่อยครั้ง ๆ เนื่องจากว่าเราไม่คุ้นกับศัพท์ (ง่าย ๆ ว่าจำไม่ได้นั่นเองค่ะ ^^)  ไม่รู้ว่าคำกริยาเมื่อต้องการเปลี่ยนเป็นช่อง 2 ช่อง 3 ต้องเปลี่ยนรูปไหม หรือเติม ed อันนี้พางงมาก หรือเมื่อต้องการเติม suffix เราต้องตัดพยัญชนะตัวสุดท้ายออกหรือคงไว้ กฎข้างล่างนี้ (อาจจะ) ช่วยคุณได้


1. อักษรตัวใหญ่ (Capital letters)
    ต้องเขียนด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอในกรณีต่าง ๆ เหล่านี้
 - วันและเดือน เช่น Monday, Friday, Augest, December
 - ชื่อคนรวมทั้งคำนำหน้าด้วย เช่น Mr.Paul
 - ชื่อเมือง ชื่อประเทศ สัญชาติ และภาษาของแต่ละประเทศ เช่น Thai, America, Australia.
 - อักษรตัวแรกของประโยค เช่น We cannot ignore this problem. (เราจะไม่เขียนตัวอักษรตัวใหญ่ทั้งหมดในประโยค)

2. สระ i ต้องอยู่ก่อน e เสมอ
    เช่น believe, brief
    แต่มีกรณียกเว้น กรณีที่ตามหลัง c เช่น receive  และคำที่ออกเสียงเป็น e+i เช่น eight, neighbour, either,
neither, leisure.

3. คำที่ลงท้ายด้วย e
    เมื่อเราต้องการใส่ -ing หรือ -ed ให้ตัด e ตัวสุดท้ายทิ้งก่อน แล้วค่อยเติม -ing หรือ -ed
    เช่น  love –> loved, write –> writing
    เมื่อเราต้องการใส่ -ment หรือ -dom ให้กับคำที่ลงท้ายด้วย e ให้คง e ตัวสุดท้ายไว้สามารถเติม -ment หรือ -dom เข้าไปได้เลยเช่น amusement, boredom
    ถ้าตัวอักษรก่อนหน้า e เป็นสระ เช่น argue ให้ตัดตัว e ออกก่อนเติมอักษรต่อท้าย  เช่น argued, auguing, argument
    ถ้าตัวอักษรก่อนหน้า e เป็นตัว c หรือ g เช่น manage, notice ไม่ต้องตัดตัว e ออก สามารถเติมอักษรต่อท้ายได้เลยเช่น manageable, management, noticeable

4. คำที่ลงท้ายด้วย y
    เมื่อเราต้องการเปลี่ยนรูปของคำที่ลงท้ายด้วย y เราต้องเปลี่ยน y เป็น i ก่อน เช่น happy เป็น happier หรือ study เป็น studied
    แต่เราไม่ต้องเป็น y เป็น i ในกรณีที่ต้องเติม -ing ต่อท้าย เช่น crying, playing, studying.
    หรือกรณีที่ตัวอักษรก่อนหน้า y เป็นสระก็ไม่ต้องเปลี่ยน y เป็น i เช่น employment, obeyed

5. การซ้ำตัวอักษรเมื่อเพิ่มอักษรต่อท้าย
    กรณี คำที่เราต้องการเพิ่มอักษรต่อท้าย มีอักษรก่อนหน้าเป็นสระ เราต้องเพิ่มตัวอักษรตัวนั้น 1 ตัวก่อนเพิ่มตัวต่อท้าย เช่น slim ต้องเป็น slimmed, slimmer, slimmest หรือ swim เป็น swimming
    ถ้าคำนั้นประกอบด้วยพยางค์มากกว่า 1 พยางค์ เราจะเพิ่มตัวอักษรต่อท้ายเฉพาะกรณีที่พยางค์สุดท้ายมีการเน้นเสียงเท่านั้น หากคำสุดท้ายไม่มีการเน้นเสียง จะไม่เติมอักษรต่อท้าย เช่น occur เป็น occurred หรือ happen เป็น happened

6. การเพิ่มคำนำหน้า
    เมื่อมีการเพิ่มคำนำหน้า การสะกดคำจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น unnecessary, dissatisfied, prearranged

7. การสะกดคำในภาษาอังกฤษแบบอเมริกา กับภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ
    สามารถใช้ได้เหมือนกันหมด แต่เวลาใช้ให้ใช้ในรูปแบบเดียวกัน อย่าใช้ผสมกัน เช่น My favorite color is blue or My favourite colour is blue. (Not
My favourite color is blue.)

ขอบคุณข้อมูลจาก  Learning English

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | cheap international calls