วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

เมื่อไรใช้ have, has หรือ had ?


การใช้ have, has, had

เป็นกริยาแท้ของประโยค
have ใช้กับ I, we, you, they  และประธานที่เป็นพหูพจน์ ในประโยคที่เป็นปัจจุบัน (present)
has ใช้กับประธานเอกพจน์ ในประโยคที่เป็นปัจจุบัน (present)
had ใช้กับประธานได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ ในประโยคที่เป็นอดีต (past)
ตัวอย่าง
- I have a book.
- He has a son.
- She had a daughter.

การใช้ can could


การใช้ can could

คำว่า Can และ Could ใช้ในประโยคที่แสดงความสามารถ, แสดงความอ่อนน้อมในการขออนุญาต หรือ ใช้ในประโยคคำถามเมื่อต้องการถามว่า เป็นไปได้หรือไม่
Can แปลว่า สามารถ ใช้เมื่อเป็นปัจจุบัน ซึ่งมีวิธีการใช้ ดังนี้
1. ใช้กับนามที่เป็นเอกพจน์ ไม่ต้องเติม s เช่น She can swim.
2. ใช้ในประโยคคำถามและปฏิเสธ เช่น Can she swim?
นอกจากนี้ หากต้องการเปลี่ยน Can ที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นประโยคอนาคต ให้เปลี่ยนเป็น will be able to แทน
เช่น  She will be able to swim in the next year.
และกรณีที่ในประโยคมีกริยาช่อง 3 อยู่ด้วย ให้ใช้คำอื่นแทน ช่น I have been able to swim.

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การใช้ a an the

การใช้ article (a, an, the)

a, an และ the เป็นคำที่ใช้สำหรับนำหน้าคำนาม แบ่งได้เป็น 2 ชนิด

1. Indefinite Article คือ a และ an ใช้นำหน้านามที่มีความหมายทั่วไป
2. Definite Article คือ the ใช้นำหน้านามที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง

การใช้ a 
สำหรับนำหน้านามที่เป็นเอกพจน์, นามนับได้, นามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และนามที่มีความหมายทั่วไป

ตัวอย่าง a bird, a student, a teacher, a doctor เป็นต้น
ยกเว้น คำที่ขึ้นต้นด้วยสระ แต่ออกเสียงเป็นพยัญชนะ เช่น a user (ออกเสียงว่า ยูเซอร์)

คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ

คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ หรือ Possessive Noun



คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ คือคำนามที่แสดงถึงการเป็นเจ้าของของนามอีกตัวหนึ่ง

ตัวอย่างเช่น  Dan's pen (ปากกาของแดน)  Pansy's car (รถของแพนซี่)  Don's house (บ้านของดอน) เป็นต้น

การแสดงลักษณะเป็นเจ้าของ มี 2 ลักษณะ คือ
1. เติม 's (apostrophe) 


    การเติม 's หลังคำนามที่เป็นเอกพจน์
    เช่น      Dan's pen (ปากกาของแดน)

    การเติม 's หลังคำนามที่เป็นพหูพจน์ เขียนได้สองแบบ
    - นามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s อยู่แล้ว เติม ( ' ) หลังคำนามนั้นได้เลย
        ตัวอย่าง students' books หรือ boys's pens

    - นามพหูพจน์ที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย s  เติม ( 's ) หลังคำนามนั้นได้เลย (เหมือนเติมหลังคำนามเอกพจน์)
        ตัวอย่าง men's books หรือ children's pens

2. เติม of

    การเติม of (แปลว่า ของ) ส่วนมากจะใช้เกี่ยวกับนามที่เป็นวัตถุมากกว่าบุคคลหรือสิ่งมีชีวิต
    เช่น roof of house, result of experiment
    
   

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

การใช้ difference และ different

การใช้ difference และ different



เคยสับสนไหม เวลาแต่งประโยคแล้วไม่รู้ว่าจะหยิบ difference หรือ different มาใช้ดี

difference n. ความแตกต่าง
different adj. แตกต่าง

There is not much difference between the two opinions.
ความแตกต่างระหว่าง 2 ความคิดเห็นมีไม่มาก
Your opinion is quite different from mine.
ความคิดเห็นของคุณค่อนข้างแตกต่าง


ลองดูตัวอย่าง ประโยคข้างบน แล้วนำไปใช้ให้ถูกกันนะคะ

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Adverbs of frequency (How often do you? I usually/ often/ sometimes)

Adverbs of frequency (How often do you? I usually/ often/ sometimes)


adverbs of frequency เป็นคำที่บอกความถี่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือบอกความถี่ของสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ใน present simple


คำที่เป็น adverbs of frequency เช่น
always
usually
often
sometimes
occasionally
seldom
rarely
never
(เรียงจากความถี่มากไปหาความถี่น้อย)

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การใช้ Must และ Have to

การใช้ Must และ Have to



การใช้ Must และ Have to จะใช้ในประโยคที่พูดถึงภาระหน้าที่ และสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ
โดย Must จะใช้เวลาพูดถึงสิ่งที่ต้องทำ เช่น They must leave now.  ส่วน Have to จะใช้เวลาพูดถึงหน้าที่รับผิดชอบ I have to file reports every week.

ในบางครั้งเราจะใช้ have to แทน must สำหรับประโยคที่เป็นทางการ กล่าวคือ Have to จะดูไพเราะกว่านั่นเอง
 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | cheap international calls